ความปลอดภัย
ความ “ไม่กล้า” หรือ “ไม่มั่นใจ” ล้วนมาจากประสบการณ์ของเรา หรือ ความไ่ม่มีประสบการณ์ของเรา
มีประสบการณ์ไม่ดี ก็ทำให้ “จำ” และ “ระวัง” เพื่อความปลอดภัย
ไม่มีประสบการณ์ก็ “ระวัง” ไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย
และสิ่งสำคัญที่ทำให้มีความปลอดภัยคือ “มีสติ” ไม่ตระหนกตกใจจนเกินเหตุ
การจมน้ําเป็นอันที่จริงคือผลสืบเนื่องจากการบกพร่องทางการหายใจ โดยน้ำปิดกั้นทางเดินหายใจทำให้ไม่สามารถหายใจเอาอากาศได้ ปอดที่เป็นเครื่องมือหลักเลยที่ช่วยควบคุมการลอยจมของตัวเรา
ลองคิดง่ายๆโดยสมมติว่าปอดเราคือ ลูกโป่ง 1 ใบ เมื่อเราหายใจเข้าไป ลูกโป่งจะลอยขึ้น และเมื่อเราหายใจออก ก็จะจมลง สาเหตุหลักที่คนจมน้ำคือขาดสติ ปฏิกิริยาของร่างกายในการจมน้ำคือบุคคลนั้นจะพยายามกลั้นหายใจเพราะกลัว สำลักน้ำ จนกระทั่งออกซิเจนในเส้นเลือดแดงถูกใช้ไปจนถึงระดับที่ต่ำและ คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดดำมีมากขึ้นจนถึงระดับที่กลไกการหายใจโดยอัตโนมัติทำงาน ซึ่งน้ำร่วมทั้งสิ่งอื่นๆที่อยู่ในน้ำก็จะเข้าไปในปอดในตอนนี้ และเมื่อปอดไม่มีอากาศแต่ถูกแทนที่ด้วยน้ำ ก็เปรียบเสมือนข้างในลูกโป่งเป็นน้ำ และก็จะจมลง
ดังนั้น เมื่อประสบอุบัติเหตุทางน้ำ สิ่งที่ควรทำคือไม่ตะกุยตะกาย หายใจและลอยตัวในแนวขนานกับน้ำให้ได้จะนอนหงายให้ปากและจมูกโผล่พ้นน้ำ พอหายใจได้ทำให้ปอดเราพองเหมือนลูกโป่ง เราก็จะไม่จม หรือจะนอนคว่ำลำตัวจะลอยปริ่มน้ำสามารถจะเงยหน้าขึ้นมาหายใจได้ ที่สำคัญคือพยายามเติมอากาศให้ปอดของเรา ให้ลอยอยู่ที่ผิวน้ำโดยใช้กำลังให้น้อยที่สุด
หากเรียนวิทยาศาสตร์ โดยไม่รู้ว่ามันคือ "วิทยาศาสตร์" มันจะสนุกขึ้นไหม ใครๆก็ว่าวิทยาศาสตร์ยาก และทำไมนโยบายประเทศถึงต้องผลักดันให้เด็กไทยเก่งวิทย์ เรามาลองทำความรู้จักกับเรื่องรอบตัวโดยไม่ต้องไปจัดกลุ่มให้มันว่ามันใช่หรือไม่ใช่วิทยาศาสตร์ อยากรู้และเห็นว่ามีประโยชน์ ก็ศึกษามันเพื่อให้ใช้ชีวิตได้สนุกขึ้น ติดอาวุธให้โลดโผนได้มากขึ้นอย่างมั่นใจ รวมทั้งยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เมื่อถึงคราวจำเป็น
ในวันที่ 22 กันยายน ทางทีมจะจัด workshop สำหรับครู เรื่อง กิจกรรมบูรณาการวิทยาศาสตร์กับความปลอดภัย เพื่อให้ครูสามารถมีความมั่นใจในการดูแลตนเองและดูแลนักเรียน อีกทั้งยังสามารถส่งเสริมทักษะชีวิต หรือ Life Skills ในการเอาตัวรอด โดย workshop เน้นการปฏิบัติจริง ทั้งการสร้างหุ่นจำลองจม-ลอย และ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) คือปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพด้วยวิธีปั๊มหัวใจ กิจกรรมเหล่านี้ไม่ใช่แค่แฝงความรู้ความเข้าใจเรื่องร่างกาย และ หลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังเป็นการติดอาวุธการช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย
มาเรียนรู้ด้วยกันนะคะ
งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และ สมัครมาได้ที่ทางเว็บของมูลนิธิศักดิ์พรทรัพย์ ของการอบรมวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 8.30 – 16.00 น.